อาลี บิน อบู ฏอลิบ
بِـــسْــــــمِ اللَّهِ
الرَّحْمَانِ الرَّحِــيْــمِ
ท่านอาลี บิน อบู ฏอลิบ
บิน อับดุลมุฏฏอลิบ เกิดปี ค . ศ . 600 เป็นเคาะลีฟะฮ์ที่ 4 ระหว่างปี ฮ.ศ. 35-40 หรือ ค.ศ. 656-661
มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับท่านนบี ท่านมีอายุน้อยกว่าท่านศาสดา 30
ปี อาลีมีความเก่งเรื่องการท่องจำอัลกุรอาน ท่านจำได้ทุกอายะห์
และท่านเคยตัดสินคดีความได้เฉียบขาดมากจนเป็นที่ยอมรับของนบี
เรื่องราวท่านอาลีนี่ค่อนข้างจะซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากเลยต้องให้รายละเอียดมากหน่อย ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความนี้ บทความนี้ไม่ใช่วิชาประวัติศาสตร์ จึงสอดแทรกข้อคิดเห็นส่วนตัวเข้ามา
คิดว่าเพราะสมัยท่านอุษมานแผ่ขยายอำนาจออกนอกประเทศ เรียกมะดินะห์ เมืองหลวงนครรัฐอิสลามมีเมืองมักกะห์เป็นเมืองคู่แฝดในทางศาสนา และมีเมืองอื่นๆ ในปกครองเลยเรียกว่าประเทศซะเลย การแผ่ขยายอาณาเขตปกครองออกไปกว้างขวางเพราะป้องกันการถูกรุกราน สมัยท่านนบีต่อเนื่องมาถึงอุษมานยังมีอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่แผ่อำนาจเหนือดินแดนอาราเบีย ไหนจะพวกกุร็อยช์มักกะห์ ไหนจะพวกยิวรอบๆมะดินะห์ ท่านนบีและเซาะฮาบะห์ทั้งหลายจึงต้องชิงขยายอาณาเขตออกไปก่อนที่จะมีผู้รุกรานเข้ามา การได้เมืองต่างๆ มาไว้ในการปกครองของอิสลาม ไม่ได้ได้มาด้วยความศรัทธาอิสลาม แต่เพราะได้มาด้วยการรบ ตัวแทนที่ไปเป็นผู้ปกครองดินแดนแคว้นต่างๆ ก็ขาดอิหม่านที่มั่นคง พวกเขาเพียงแต่รู้ศาสนาอิสลามว่ามีหลักการว่าอย่างไร แต่ขาดวิญญาณอิหม่านจึงปกครองแคว้นแดนต่างๆ ด้วยนัฟซู (ความเป็นปัจเจกบุคคล) มากเกินไป การขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวางของอิสลามใช้เวลาไปเพียง 35 ปี จากท่านนบีจนถึงต้นสมัยอาลีปกครอง เวลาอันรวดเร็วนี้เองที่เป็นข้อเสีย ทำให้สมัยการปกครองของอาลีจึงระส่ำระสาย
ด้านการรบ ท่านเคยเป็นแม่ทัพในสงครามตะบูก สงครามบะดัร สงครามอุหุด สงครามคอนดักที่ได้รับฉายาว่า สิงโตแห่งอัลลอฮุ ก็รบชนะที่คอนดักนี่เอง
หลังจากท่านอุษมานถูกฆาตกรรม ประชาชนชาวมะดีนะฮ์ รวมถึงกลุ่มกบฏได้ให้การสัตย์สาบาญต่อท่านอะลี อิบนุ อบีฎอลิบให้สืบทอดตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์คนที่ 4 แห่งอาณาจักรอิสลาม ท่านอะลีเป็นผู้นำรัฐอิสลามในขณะที่สถานการณ์รอบด้านเต็มไปด้วยความวุ่นวายระสำระสายและมีความแตกแยกกันอันสืบเนื่องจากฟิตนะตุลกุบรอ ท่านหญิงอาอิชะฮ์พร้อมกับท่านฏ็อลฮะฮ์ และท่านซุบัยร์ รวมตัวกันบีบคั้นท่านอะลีให้รีบเร่งดำเนินคดีต่อกลุ่มกบฏฆาตกรท่านอุษมาน ในขณะที่มุอาวิยะฮ์ อิบนุ อบี สุฟยาน ซึ่งเป็นข้าหลวงในซีเรียมาตั้งแต่สมัยเคาะลีฟะฮ์อุมัรปฏิเสธที่จะให้การสัตย์สาบานต่อเคาะลีฟะฮ์อะลี พร้อมกับกล่าวหาท่านเคาะลีฟะฮ์อะลี มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ฆาตกรรมท่านอุษมาน จุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างเคาะลีฟะฮ์อะลีกับท่านหญิงอาอีชะฮ์และท่านมุอาวิยะฮ์ข้าหลวงแห่งซีเรียจบลงโดยการสงครามญะมาล ( สงครามอูฐ ) และสงครามซิฟฟีนตามลำดับ ซึ่งเป็นศึกสายเลือดระหว่างมุสลิมด้วยกันที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อิสลามและทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังทหารและศอหาบะฮ์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการเกิดกลุ่มคอวาริจญ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งมัจลิสตะห์กีม ( คณะอนุญาโตลาการเพื่อหาทางออกปัญหาคิลาฟะฮ์ ) ในสงครามซิฟฟีน และนำไปสู่สงครามนะห์รอวาน ระหว่างกองทัพเคาะลีฟะฮ์อาลีกับกลุ่มคอวาริจญ์
ท่านอาลีเสียชีวิตจากการถูกลอบสังหาร ด้วยการใช้ดาบอาบยาพิษฟันบนศีรษะในขณะที่ท่านละหมาดอยู่ที่มัศญิดในเมือง กูฟะฮ์ ประเทศอิรัก ท่านอาลีสิ้นชีวิตในปี ฮ.ศ. 40 (ค . ศ . 661) ขณะนั้นท่านอายุ 63 ปี ศพของท่านฝังไว้ที่เมืองนาจ๊าบ เพื่อป้องกันการมาทำลายศพจึงไปแอบฝังลับๆที่นาจ๊าบเป็นจังหวัดใหญ่กว่ากูฟะห์ ประเทศอิรัก ท่านอาลีเป็นแบบอย่างที่ดีของความเป็นมุอ์มินผู้ศรัทธา ตลอดชีวิตของท่านนั้น ท่านได้อุทิศทุกอย่างเพื่อศาสนาและพระผู้เป็นเจ้า พวกยุโรปจะเรียกสมัยเคาะลิฟะห์ทั้งสี่ว่า ”จักรวรรดิรอชิดีน”
เรื่องราวท่านอาลีนี่ค่อนข้างจะซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากเลยต้องให้รายละเอียดมากหน่อย ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความนี้ บทความนี้ไม่ใช่วิชาประวัติศาสตร์ จึงสอดแทรกข้อคิดเห็นส่วนตัวเข้ามา
คิดว่าเพราะสมัยท่านอุษมานแผ่ขยายอำนาจออกนอกประเทศ เรียกมะดินะห์ เมืองหลวงนครรัฐอิสลามมีเมืองมักกะห์เป็นเมืองคู่แฝดในทางศาสนา และมีเมืองอื่นๆ ในปกครองเลยเรียกว่าประเทศซะเลย การแผ่ขยายอาณาเขตปกครองออกไปกว้างขวางเพราะป้องกันการถูกรุกราน สมัยท่านนบีต่อเนื่องมาถึงอุษมานยังมีอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่แผ่อำนาจเหนือดินแดนอาราเบีย ไหนจะพวกกุร็อยช์มักกะห์ ไหนจะพวกยิวรอบๆมะดินะห์ ท่านนบีและเซาะฮาบะห์ทั้งหลายจึงต้องชิงขยายอาณาเขตออกไปก่อนที่จะมีผู้รุกรานเข้ามา การได้เมืองต่างๆ มาไว้ในการปกครองของอิสลาม ไม่ได้ได้มาด้วยความศรัทธาอิสลาม แต่เพราะได้มาด้วยการรบ ตัวแทนที่ไปเป็นผู้ปกครองดินแดนแคว้นต่างๆ ก็ขาดอิหม่านที่มั่นคง พวกเขาเพียงแต่รู้ศาสนาอิสลามว่ามีหลักการว่าอย่างไร แต่ขาดวิญญาณอิหม่านจึงปกครองแคว้นแดนต่างๆ ด้วยนัฟซู (ความเป็นปัจเจกบุคคล) มากเกินไป การขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวางของอิสลามใช้เวลาไปเพียง 35 ปี จากท่านนบีจนถึงต้นสมัยอาลีปกครอง เวลาอันรวดเร็วนี้เองที่เป็นข้อเสีย ทำให้สมัยการปกครองของอาลีจึงระส่ำระสาย
ด้านการรบ ท่านเคยเป็นแม่ทัพในสงครามตะบูก สงครามบะดัร สงครามอุหุด สงครามคอนดักที่ได้รับฉายาว่า สิงโตแห่งอัลลอฮุ ก็รบชนะที่คอนดักนี่เอง
หลังจากท่านอุษมานถูกฆาตกรรม ประชาชนชาวมะดีนะฮ์ รวมถึงกลุ่มกบฏได้ให้การสัตย์สาบาญต่อท่านอะลี อิบนุ อบีฎอลิบให้สืบทอดตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์คนที่ 4 แห่งอาณาจักรอิสลาม ท่านอะลีเป็นผู้นำรัฐอิสลามในขณะที่สถานการณ์รอบด้านเต็มไปด้วยความวุ่นวายระสำระสายและมีความแตกแยกกันอันสืบเนื่องจากฟิตนะตุลกุบรอ ท่านหญิงอาอิชะฮ์พร้อมกับท่านฏ็อลฮะฮ์ และท่านซุบัยร์ รวมตัวกันบีบคั้นท่านอะลีให้รีบเร่งดำเนินคดีต่อกลุ่มกบฏฆาตกรท่านอุษมาน ในขณะที่มุอาวิยะฮ์ อิบนุ อบี สุฟยาน ซึ่งเป็นข้าหลวงในซีเรียมาตั้งแต่สมัยเคาะลีฟะฮ์อุมัรปฏิเสธที่จะให้การสัตย์สาบานต่อเคาะลีฟะฮ์อะลี พร้อมกับกล่าวหาท่านเคาะลีฟะฮ์อะลี มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ฆาตกรรมท่านอุษมาน จุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างเคาะลีฟะฮ์อะลีกับท่านหญิงอาอีชะฮ์และท่านมุอาวิยะฮ์ข้าหลวงแห่งซีเรียจบลงโดยการสงครามญะมาล ( สงครามอูฐ ) และสงครามซิฟฟีนตามลำดับ ซึ่งเป็นศึกสายเลือดระหว่างมุสลิมด้วยกันที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อิสลามและทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังทหารและศอหาบะฮ์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของการเกิดกลุ่มคอวาริจญ์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งมัจลิสตะห์กีม ( คณะอนุญาโตลาการเพื่อหาทางออกปัญหาคิลาฟะฮ์ ) ในสงครามซิฟฟีน และนำไปสู่สงครามนะห์รอวาน ระหว่างกองทัพเคาะลีฟะฮ์อาลีกับกลุ่มคอวาริจญ์
ท่านอาลีเสียชีวิตจากการถูกลอบสังหาร ด้วยการใช้ดาบอาบยาพิษฟันบนศีรษะในขณะที่ท่านละหมาดอยู่ที่มัศญิดในเมือง กูฟะฮ์ ประเทศอิรัก ท่านอาลีสิ้นชีวิตในปี ฮ.ศ. 40 (ค . ศ . 661) ขณะนั้นท่านอายุ 63 ปี ศพของท่านฝังไว้ที่เมืองนาจ๊าบ เพื่อป้องกันการมาทำลายศพจึงไปแอบฝังลับๆที่นาจ๊าบเป็นจังหวัดใหญ่กว่ากูฟะห์ ประเทศอิรัก ท่านอาลีเป็นแบบอย่างที่ดีของความเป็นมุอ์มินผู้ศรัทธา ตลอดชีวิตของท่านนั้น ท่านได้อุทิศทุกอย่างเพื่อศาสนาและพระผู้เป็นเจ้า พวกยุโรปจะเรียกสมัยเคาะลิฟะห์ทั้งสี่ว่า ”จักรวรรดิรอชิดีน”
หะซัน
บิน อาลี ลูกชายคนโตของอาลี บิน อบู ตอลิบ เกิดปี ฮ.ศ.3 (ค.ศ. 625) เขาได้รับเลือกให้เป็นเคาะลีฟะฮ์คนที่
5 ในปีฮ.ศ. 41 (ค.ศ.661) ขึ้นมาครองตำแหน่งเคาะลีฟะห์ได้เพียงหกเดือน
ก็ต้องโอนอำนาจไปให้มุอาวิยะห์
หะซันเสียชีวิตเพราะถูกวางยาพิษ เมื่อปี ฮ.ศ. 50 (ค.ศ. 675)
ร่างถูกฝังที่กุบูรอัลบะกีอะ นครมะดินะห์ ตำแหน่งเคาะลิฟะห์นั้นสิ้นสุดที่หะซัน
มุอาวิยะห์เป็นได้แค่กาลิบ หรือซุลตอน (ผู้นำ ผู้ปกครองบ้านเมือง)
ฮุเซน บิน อาลี (น้องชายหะซัน) เกิดเมื่อ ฮ.ศ.4 (ค.ศ.626) อ่อนกว่าหะซันหนึ่งปี ตายเมื่อ (10 มุฮัรรอม ฮ.ศ.61) ค.ศ. 680 อายุ 54 ปี ตายที่เมือง “กัรบาลา” ห่างจากกูฟะห์ (เมืองที่อาลีผู้พ่ออาศัยและตาย) สาเหตุที่ตายคือนำทัพไปเมืองกัรบาลา (ชื่อเมืองนี้แปลว่า “เมืองที่จะพิสูจน์การทรมาน พวกชีอะห์ให้ความเคารพนับถือฮุเซนมากด้วยเหตุที่ฮุเซนประกาศปฏิเสธการมอบคำปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อ ยะซีด ที่ 1 เพื่อแลกกับตำแหน่ง เพื่อหลบเลี่ยงการมีปัญหากับ ยะซีด ฮุเซนก็ย้ายไปอาศัยอยู่ในมักกะห์ ส่วนยะซีดมีแผนการกำจัดฮุเซนโดยการปลอมแปลงเป็นพวกชาวกูฟะห์ แล้วส่งหนังสือมาแสดงความจงรักภักดีว่าจะสวามิภักดิ์ต่อฮุเซนและร้องขอให้ฮุเซนยกทัพไปช่วยเหลือ ฮุเซนก็ยกทัพไปกัรบาลา เมื่อทัพมาถึงกัรบาลา กองทัพฝ่ายยะซีดก็เข้ามาขวางทันที และจับฮุเซนได้ แล้วตัดหัว เชื่อกันว่าแม่ทัพยะซีดได้นำหัวของฮุเซนกลับไปให้ยะซีดที่ดามัสกัตด้วย เรื่องย่อๆ ของเคาะลีฟะห์อาลี-เคาะลิฟะห์หะซันและฮุเซน พอแค่นี้ก่อน
ฮุเซน บิน อาลี (น้องชายหะซัน) เกิดเมื่อ ฮ.ศ.4 (ค.ศ.626) อ่อนกว่าหะซันหนึ่งปี ตายเมื่อ (10 มุฮัรรอม ฮ.ศ.61) ค.ศ. 680 อายุ 54 ปี ตายที่เมือง “กัรบาลา” ห่างจากกูฟะห์ (เมืองที่อาลีผู้พ่ออาศัยและตาย) สาเหตุที่ตายคือนำทัพไปเมืองกัรบาลา (ชื่อเมืองนี้แปลว่า “เมืองที่จะพิสูจน์การทรมาน พวกชีอะห์ให้ความเคารพนับถือฮุเซนมากด้วยเหตุที่ฮุเซนประกาศปฏิเสธการมอบคำปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อ ยะซีด ที่ 1 เพื่อแลกกับตำแหน่ง เพื่อหลบเลี่ยงการมีปัญหากับ ยะซีด ฮุเซนก็ย้ายไปอาศัยอยู่ในมักกะห์ ส่วนยะซีดมีแผนการกำจัดฮุเซนโดยการปลอมแปลงเป็นพวกชาวกูฟะห์ แล้วส่งหนังสือมาแสดงความจงรักภักดีว่าจะสวามิภักดิ์ต่อฮุเซนและร้องขอให้ฮุเซนยกทัพไปช่วยเหลือ ฮุเซนก็ยกทัพไปกัรบาลา เมื่อทัพมาถึงกัรบาลา กองทัพฝ่ายยะซีดก็เข้ามาขวางทันที และจับฮุเซนได้ แล้วตัดหัว เชื่อกันว่าแม่ทัพยะซีดได้นำหัวของฮุเซนกลับไปให้ยะซีดที่ดามัสกัตด้วย เรื่องย่อๆ ของเคาะลีฟะห์อาลี-เคาะลิฟะห์หะซันและฮุเซน พอแค่นี้ก่อน
ป้ายกำกับ: อาลี บิน อบู ฏอลิบ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก